วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Phahurat.com ร้านชุดไทย

www.Phahurat.com มีทั้งหมดสองสาขาคือ สาขาพระราม 9 และสาขา งามวงศ์วาน
             โดยทั้งสองสาขาจะเปิดจำหน่ายชุดไทยเหมือนกันราคาเท่ากัน แตกต่างกันที่เวลาเปิดให้บริการ สาขาพระราม 9  จ.-ส. 9:00 - 18:00 น. วันอาทิตย์ 12:00-18:00 น.และหยุดตามวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งที่สะดวกเดินทางมาในวันหยุดหรือหลังเลิกงานจะไม่สามารถมาที่ร้านสาขาพระราม 9 ได้
ดังนั้นเมื่อวันที่ 1 สค. 2557 สาขางามวงศ์วานจึงได้เปิดขึ้นเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เวลาทำการ จ.-ศ. 11:00 น. - 20:30 น.  ส.-อ. 10:30 - 21:00 น.และไม่หยุดตามวันนักขัตฤกษ์ ทำให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น

สาขาพระราม 9 ตั้งอยู่เลขที่ 943 ถ.พระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250


เดินทางสะดวกจากทางด่วนศรีรัชทางลงถนนศรีนครินทร์เพียงห้าร้อยเมตร ที่จอดรถ 20 คันหน้าร้าน ติดกับห้าง The 9 สะดวกในการเลือกชมเลือกลอง ที่นั่งพักรอและห้องลองชุด 3 ห้อง 






สาขาที่สอง สาขางามวงศ์วาน ตั้งอยู่เลขที่ 30/39-50 อาคารศูนย์การค้า The Mall งามวงศ์วาน ชั้นสอง ห้อง 2S-C2B ถนนงามวงศ์วาน ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 







วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Recommend Place by Phahurat.com ตอนที่1# 92 ปีโรงแรมรถไฟ โรงแรมแห่งแรกบนชายหาดหัวหิน

"โรงแรมรถไฟ" ชื่อที่คุ้นหูตั้งแต่สมัยผมยังเด็กเมื่อเวลาได้มีโอกาสไปเที่ยวที่หัวหิน จนถึงปัญจุบันโรงแรมนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน" แต่เสน่ห์ความสวยงามของสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ยังคงบอกเล่าเรื่องราวและสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจให้กับแขกที่ได้เข้ามาพัก ณ.สถานที่แห่งนี้ 


หลังจากที่ได้ไปพักที่นี้หลายครั้งจนอยากจะเอามาแนะนำกับแฟนเพจของ Phahurat.com ที่ชื่นชอบกับเอกลักษณ์ของความเป็นไทยให้ได้ชมกันครับ ประวัติของโรงแรมแห่งนี้นั้นผมขอยกบทความของคุณ amTae ใน http://www.yimwhan.com/ มาเป็นข้อมูลให้ทุกท่านได้ทราบความเป็นมากันครับ

Hospitality : โซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท โรงแรมรถไฟ สถาปัตยกรรมสมัยร.5
ภาพของหัวหินในปัจจุบันถึงแม้จะแตกต่างจากภาพหัวหินในอดีตไปมากเพียงใด แต่มนต์เสน่ห์ของที่พักตากอากาศชายทะเลที่นิยมมาตั้งแต่ครั้งอดีตยังคงปรากฏให้สัมผัสได้ บรรยากาศริมหาดที่เรียงรายไปด้วยบ้านพักตากอากาศของเหล่าชนชั้นสูงสมัยก่อน ผนวกกับความสงบเงียบที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง ทำให้หาดหัวหินงดงามและมีมนต์เสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นยากที่จะหาที่ใดเหมือนได้
       
       “โรงแรมรถไฟ” โรงแรมพักตากอากาศหรูหราตามแบบอย่างโรงแรมยุโรปในขณะนั้น ซึ่งเป็นชื่อแรกของโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท ถูกก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยมีสถาปนิกชาวอิตาลี A.Rigazzi ซึ่งเป็นสถาปนิกประจำกรมรถไฟเป็นผู้ออกแบบ ตัวอาคารของโรงแรมถูกออกแบบให้เป็นอาคารแบบโคโลเนียล (Colonial Style) ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ สูง 2 ชั้น มีห้องพัก 14 ห้อง ตัวอาคารเน้นการใช้ไม้ร่วมในการก่อสร้าง เช่น ราวระเบียงเป็นไม้ทั้งหมด หรือเสาบางต้นเป็นเสาไม้หุ้มปูน เน้นรูปทรงหลังคาทรงชันที่สวยงามและปูกระเบื้องสีสดเห็นชัดเจน มีทางเดินและระเบียงกว้างที่คลุมด้วยหลังคาทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
   
       ถึงแม้จะเป็นอาคารที่ก่อสร้างตามรูปแบบของยุโรปแต่ก็มีการประยุกต์ปรับให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยที่มีทั้งร้อนและมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี จนถึงปี พ.ศ.2501 จึงมีการก่อสร้างอาคารใหม่เชื่อมต่อกับอาคารเดิมไปทางทิศใต้ โดยมีถาวร บุณยเกตุ สถาปนิกของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออกแบบ
   
       ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ (Modern Architecture) เป็นอาคาร 3 ชั้น มีการใช้วัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ในยุคนั้น เช่น กระเบื้องยางสีสด วงกบเหล็ก กระจกบานใหญ่ การเล่นลวดลายของหินขัดที่พื้น การบุผนังด้วยหินอ่อน กรวด หินกาบ รวมทั้งโครงสร้างที่มีลวดลายตามแผงกันแดดและบันได ส่วนเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายในได้ออกแบบให้ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายแก่แขกผู้มาพัก
   
       ตลอดระยะเวลาโรงแรมรถไฟได้ทรุดโทรมลงและเสื่อมความนิยมไป ดังนั้นในปี พ.ศ.2528 การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกับบริษัทในเครือเซ็นทรัลและกลุ่มธุรกิจโรงแรม Accor จากฝรั่งเศส ปรับปรุงพัฒนาโรงแรมรถไฟหัวหินขึ้นใหม่ ภายใต้เงื่อนไขการอนุรักษ์รูปแบบและเอกลักษณ์ของอาคารเก่าของโรงแรม ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ สัญลักษณ์ และภูมิทัศน์ของพื้นที่โดยรอบ
   
       ภูมิสภาปัตยกรรมได้ถูกออกแบบปรับปรุงใหม่เช่นกัน โดยปรับแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นส่วนต่าง ๆ คือ ส่วนที่พัก ส่วนกิจกรรมและส่วนบริการ จัดระบบทางสัญจรแยกออกมาอย่างชัดเจนกับส่วนพื้นที่ใช้สอย นอกจากนี้ยังออกแบบให้ส่วนของภูมิสถาปัตยกรรมส่งเสริมคุณค่าของอาคารอนุรักษ์โดยออกแบบให้แนวแกนหลักของผังยึดตามแนวผังอาคารเดิม เพื่อให้เกิดความสง่างามและความประทับใจต่อผู้มาเยือน
       ส่วนสวนไม้ดัด (Topiary Garden) มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของไม้ดัดที่ตัดแต่งเป็นรูปสัตว์ โดยเฉพาะซุ้มประตูไม้ดัดรูปช้างขนาดใหญ่ที่นำไปสู่อาคารอนุรักษ์ และรักษาต้นไม้เดิมที่อยู่ เช่น ต้นจามจุรีใหญ่ เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของโรงแรมและเพื่อเพิ่มความสวยงามร่มรื่น
   
       จวบจนถึงวันนี้ ภาพลักษณ์ของโรงแรมรถไฟ หรือ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท ยังคงสามารถรักษาเอกลักษณ์และคุณค่าทางสถาปัตยกรรมรวมไปถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากรางวัลการออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ได้รับจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ถึงสองครั้ง ชื่อเสียงและความสำเร็จของโรงแรม คือผลพวงที่เกิดจากการดำเนินการอย่างชาญฉลาด สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการคิดและวางแผนที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรม ที่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาแต่อย่างใด โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีสอร์ท จึงเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ที่อยู่เคียงคู่มากับหาดหัวหินแห่งนี้ และการทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งอดีตคือเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้



โรงแรมรถไฟหัวหิน หรือโฮเต็ล หัวหิน เป็นโรงแรมแห่งแรก ที่ปรากฏขึ้นบนชายหาดแห่งนี้เมื่อ 80 ปีก่อน เรื่องราวบรรยากาศ อันสนุกสนานของหนุ่ม-สาวในวงสังคมชั้นสูงในยุคนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลายคนต้องแวะเวียนกลับมารำลึกความหลังอย่างต่อเนื่อง เมื่อผนึกรวมกับกลยุทธ์การจัดการสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ต ในเครือของเซ็นทรัล และกลุ่ม Accor จากประเทศฝรั่งเศส ที่เข้ามาบริหารและปรับปรุงใหม่เพิ่มเติมในปี พ.ศ.2532 ทำให้ที่นี่ยังคงเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน
ภาพเบื้องหน้าคืออาคารที่สวยสง่า แลดูคลาสสิก สูงเพียง 2 ชั้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีแดงสด ตัดกับตัวตึกสีขาวสะอาดตา โดดเด่นด้วยลวดลายประกอบสไตล์โคโลเนียลทอดยาวไปตาม ชายหาดบนพื้นที่กว้างขวาง 97 ไร่
ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 3 ปีก คือ ปีก Railway คือ อาคารเดิมของโรงแรมรถไฟ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ.2464
ในบริเวณโรงแรม ยังมีสนามเทนนิสและสนามกอล์ฟที่ก่อสร้าง ไปพร้อมๆ กัน งานก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2464 แล้วเสร็จเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2465 งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 128,634.94 บาท
ปีก Colonial Wing เป็นฝั่งที่ก่อสร้างต่อจากปีก Railway และ ปีกสุดท้ายคือ Garden Wing ซึ่งเป็นปีกใหม่ล่าสุดที่ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2542 รวมห้องพักทั้งหมด 207 ห้อง โดยที่ตึกใหม่นั้นมีลักษณะโครงสร้างที่เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบเก่าสอดประสานกลมกลืนไปกับตัวตึกเก่า
เรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์ในอาคาร Railway เดิม ดูเหมือนยังเป็นจุดขายสำคัญของโรงแรม และผู้บริหารโรงแรมกลุ่มใหม่ก็พยายามคงเอกลักษณ์เดิมไว้ให้ได้มากที่สุด
อาคาร Railway ออกแบบโดย A Rigazzi สถาปนิกชาวอิตาเลียน ประจำกรมรถไฟ เป็นตึกแบบยุโรปทรงโคโลเนียล มีอาคารยาว 2 หลัง ต่อกันเป็นมุมฉาก ในแนวเหนือ-ใต้ กับตะวันออก-ตะวันตก ชั้นล่างมีห้องโถงใหญ่เป็นล็อบบี้ลงทะเบียนแขกที่เข้ามาพัก พื้นห้องส่วนนี้ปูด้วยหินอ่อนจากอิตาลี วางเล่นลายหมากรุก มีชุดรับแขกวางกันเป็นกลุ่ม ส่วนภายในห้องพัก พื้น และประตูหน้าต่างเป็นไม้สักทั้งหมด จากห้องโถงนี้มีบันไดใหญ่ลงสู่ถนนไปชายหาด
จากบันไดไม้สักขึ้นสู่อาคารชั้น 2 จะพบห้องโถงใหญ่สำหรับนั่งพักแขก สิ่งก่อสร้างที่เห็นจะเป็นงานไม้ทั้งหมด นอกจากบางส่วนที่ต้องอาศัยงานคอนกรีต แต่ละห้องซึ่งเป็นห้องเตียงคู่นั้นค่อนข้างกว้าง ทำให้บรรจุเตียงได้เพียง 28 เตียง



แขกที่มาพักในยุคนั้นยังได้เพลิดเพลินไปกับบาร์เหล้า ห้องบิลเลียด สนามเทนนิส และสนามกอล์ฟ โรงแรมรถไฟจึงเป็นที่พักตากอากาศ และสถานที่นัดพบของหนุ่มสาว ที่สมบูรณ์แบบและหรูหราที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย
ภายในโฮเต็ลรถไฟที่โก้หรูเมื่อ 80 ปีก่อนนั้น สรศัลย์ แพ่งสภา ได้บรรยายไว้ ในหนังสือ "ราตรีประดับดาวที่หัวหิน" ว่า เป็นเตียงไม้สักมีเสาสูง สำหรับกางมุ้งผ้าโปร่งตาเม็ดพริกไทยสีขาว ที่นอนนุ่มหนา ข้างเตียงมีโคมไฟชนิดเตี้ย ตู้เสื้อผ้าไม้สัก โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมโคมไฟ ตู้ไม้สักผสมหวายโปร่งสำหรับใส่ผ้าส่งซัก เก้าอี้ไม้สักผสมหวายแบบเอนนอนได้ ม้าวางกระเป๋าเดินทาง ที่แขวนหมวก พัดลมแขวนเพดาน เครื่องใช้ประจำห้องครบครัน หน้าต่างแบบบานเกร็ดยาวจรดพื้นแบ่งออกเป็น 2 ตอน
ราคาที่พักต่อคนในสมัยแรกเริ่มนั้นประมาณ 6-10 บาทต่อคนต่อคืน ปัจจุบันค่าเช่าห้องต่อคืนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ราคาประมาณ 6,000-7,000 บาท ราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นบาทต่อคืน
วันเวลาผ่านไปกลุ่มลูกค้าของโรงแรมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แม้ผู้บริหารมีแนวความคิดที่จะคงความเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่สุดของหัวหินไว้ก็ตาม แต่ภายในห้องพักของอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ได้ถูกตกแต่งปรับปรุง ให้ทันสมัย และสวยงามขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนกลุ่มใหม่


โฉมใหม่ของห้องพักแบบ superior ในตึก Railway ได้ถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2543 จากห้องนอนเดี่ยวกลายเป็นห้องชุดเล็กๆ ที่กว้างขวาง ผนังปูนส่วนหนึ่งถูกทุบออกเป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ต่อเชื่อมกับส่วนระเบียงเดิมซึ่งตกแต่งใหม่เป็นส่วนนั่งเล่นหรือทำงาน มีบันได 3-4 ขั้น ลงไปสู่ลานพักผ่อน เล็กๆ ส่วนตัวด้านนอกที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ต่างๆ
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นยังเน้นความสวยงามแบบคลาสสิกด้วยเครื่องเรือนแบบเก่าที่ทำจากไม้สัก เช่นเดียวกับพื้นห้องและเพดานสูงที่ติดพัดลมแบบโบราณไว้ตามผนังจะประดับด้วยภาพบรรยากาศเก่าๆ ของโรงแรม และชายหาดหัวหิน เมื่อ 80 ปีก่อน ส่วนที่ตกแต่งด้วยผ้าก็จะใช้สีธรรมชาติ ดูขรึม และหรูหรา เติมความอบอุ่นในห้องเพิ่มขึ้นด้วยไฟแสงสีเหลือง
ภายในห้องพักของอาคาร Garden Wing ซึ่งสร้างเป็นปีกสุดท้าย และเปิดบริการเมื่อปี พ.ศ.2541 นั้น แม้ภายในจะเป็นพื้นไม้ และยังคงรูปแบบด้วยเครื่องเรือนที่เป็นไม้ แต่จะให้สีสันที่สดใส ระบบต่างๆ ภายในห้องทันสมัยมากขึ้น มีห้องแต่งตัวแยกเป็นสัดส่วนเช่นเดียวกับห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ที่ทันสมัย
อาคาร Colonial Wing ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างต่อจากอาคาร Railway ถูกตกแต่งปรับปรุงด้วยเฟอร์นิเจอร์ ใหม่หมดในปีที่ผ่านมา การตกแต่งภายในจึงได้อารมณ์ที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นเช่นในห้องพักแบบ deluxe เริ่มจากห้องน้ำที่นอกจากมีสุขภัณฑ์แบบใหม่แล้ว ยังเจาะกำแพง ด้านหนึ่งเป็นหน้าต่างให้สามารถคุยกับคนในห้องนอน และมองผ่านออกไปเห็นสวนสวยภายนอกได้ด้วย แต่การให้สีสันในห้องนี้จะเน้นสีเอิร์ธโทนที่สบายตาขึ้น
เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่ เป็นจุดแตกต่าง ที่โรงแรมอื่นไม่สามารถสร้างขึ้นมานั้นได้ถูกถ่ายทอดสู่ กลุ่มลูกค้ารุ่นหลัง ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ของโรงแรม รวมทั้งพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ในส่วนของล็อบบี้ ข้าวของเครื่องใช้สมัยเมื่อครั้งยังเป็นโรงแรมรถไฟที่แปลกตา อาทิจาน ชาม ที่ทำจากกระเบื้องเคลือบสีขาวสะอาด มีตราครุฑในวงกลมอักษรไทยและอังกฤษ ส่วนชุดช้อนส้อม ชุดชา-กาแฟ ที่เป็นเครื่องเงิน มีตราครุฑและอักษรย่อ ร.ฟ.ล. (หมายถึงกรมรถไฟหลวงในยุคนั้น)


แขกบางคนยังย้อนกลับเข้ามานั่งรำลึกความหลัง พร้อมจิบน้ำชา กาแฟ แบบผู้ดีอังกฤษ ในบริเวณ After Tea ในบริเวณอาคารเก่า Railway ท่ามกลางสายลมเย็นจากทะเล และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลั่นทม ได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ ของหลานตัวเล็กๆ ซึ่งกำลังวิ่งเล่นในสวนกว้าง มองออกไปเห็นต้นข่อยดัดเป็นรูปสัตว์ต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่วสวน เด็กน้อยบางคนวิ่งลอดใต้ท้องช้างที่เป็นต้นข่อย ช้างพลายดัดตัวโตเอกลักษณ์เก่าแก่อีกอย่างหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้ด้วยความตื่นเต้น
ช้างตัวเดียวกันนี้ สมัยก่อนคนรุ่นคุณปู่ คุณย่า คุณตา หรือคุณยายต่างพากันเดิน ลอดใต้ท้องช้างแล้วทั้งสิ้น ไม่ใช่เพราะความสนุกสนาน แต่เพื่อความเป็นสิริมงคลตาม ความเชื่อในสมัยนั้น


ได้ทราบประวัติกันไปอย่างละเอียดไปแล้วท่านใดมีโอกาสแวะไปซึมซับบรรยากาศร่วม 100 ปีของสถานที่แห่งนี้อย่าลืมเก็บถาพมาฝากกันได้นะครับ สำหรับผมนั้นครั้งล่าสุดที่ได้ไปก็ยังให้ครอบครัวใส่ชุดไทยเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศระหว่างไปพักผ่อนด้วยครับ 





ขอบคุณภาพประกอบจาก
-คุณไตร ชีพธรรม คำวิเศษณ์ http://www.oknation.net/blog/trimemory/2011/05/28/entry-1
-http://dpu002wichuta.blogspot.com/2010/08/6.html
-http://kingprajadhipokstudy.blogspot.com/2013_05_01_archive.html





วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

สินค้าชุดไทยขายดี เทศกาลลอยกระทง


ในหมวดนี้เราได้รวบรวมชุดไทยของทางร้านที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลลอยกระทง  เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการเลือกชุดไทยสำหรับร่วมงาน และประกวดในช่วงดังกล่าว รายการสินค้าจะมีทั้งชุดไทยสำหรับเด็กและผู้ใหญ่นะคะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับเทศกาลลอยกระทงกำลังจะมาถึงนี้ค่ะ
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมจากในเวปหลักคลิ๊ก













วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เสื้อพระราชทาน







ชุดฟอร์ม ไทยเรือนต้น สไบตีเกล็ด


รหัสสินค้า: 000340
ราคา 2,800.00 บาท
รายละเอียด:ชุดนี้เป็นชุดไทยเรือนต้นแบบใหม่ของทางร้านลักษณะเป็นชุดแยกชิ้นประกอบด้วยเสื้อ,กระโปรง, สไบตีเกล็ดพาดบนเสื้อ


ชุดนี้เป็นแบบที่เราเลือกวัตถุดิบให้มีลักษณะหรูหรามากขึ้น ซึ่งมีคล้ายคลึงกับผ้าไหมไทยมาก ดูแลรักษาง่ายกว่า และราคาประหยัดกว่ามาก เหมาะสำหรับพนักงานต้อนรับของโรงแรม หรือพนักงานร้านอาหารไทยในต่างประเทศ


* - ชุดนี้สามารถถอดสไบออกเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็น ชุดไทยเรือนต้นได้

- เนื่องจากผ้าที่ใช้ตัดเย็บ มีความเหลือบ ทำให้สีชุดจะสีเปลี่ยนเล็กน้อยเมื่อสภาพแสงเปลี่ยนแปลง ดังรูปตัวอย่าง ชุดที่นางแบบสวมใส่ และชุดที่หุ่นสวมใส่
เป็นชุดเดียวกัน หากแต่เป็นสภาพแสงแดด และแสงภายในอาคาร



- ตัวเสื้อเป็นคอกลมแขนสามส่วน ซิปหลัง

- ตัวกระโปรงป้ายด้านล่างมีเชิงผ้า มีซับในให้ด้วย

- สไบใช้ตีเกล็ดเพิ่มความหรูหราเย็บเข้ามุมสำหรับพาดไหล่

ขนาดของแต่ละไซส์(นิ้ว):
S เสื้อรอบอก 33 กระโปรงรอบเอว 24 สะโพก 35
M เสื้อรอบอก 35 กระโปรงรอบเอว 26 สะโพก 36.5
L เสื้อรอบอก 37 กระโปรงรอบเอว 28 สะโพก 38
XL เสื้อรอบอก 39 กระโปรงรอบเอว 30 สะโพก 40


รายละเอียดเพิ่มเติมของชุดไทยชุดนี้ คลิ๊ก
เวปหลักของเรา www.phahurat.com ค่ะ